วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ชาเขียว (Green tea) 
เป็นชาที่นิยมดื่มกันอย่างแพร่หลาย ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชาแต่ละชนิด จะมีฤดูกาลเก็บเกี่ยวและวิธีการบ่มที่แตกต่างกัน กรรมวิธีการผลิตชานั้น ทำได้โดย การนำใบชาสด มาอบกับไอน้ำ เพื่อให้ใบชาหยุดการดูดเอาออกซิเจนเข้าไป แล้วนำมากดทับหรือม้วน เพื่อให้ได้ใบชาที่เรียวยาว และนำไปอบหรือคั่วให้แห้ง ดังนั้น ชาเขียวจึงเป็นชาที่มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อม ปัจจุบันนี้ชาเขียวมีมากมายหลายประเภท แต่หนึ่งในชาเขียวที่เป็นที่นิยมมากได้แก่ “เกนมัยชา” (Genmaicha) ที่มีส่วนผสมของ ใบชาชั้นเลิศ อันได้แก่
เซนชา เป็นชาที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ใบชานี้เป็นรุ่นแรกของฤดูกาลเก็บเกี่ยว จะมีลักษณะใบเรียวยาว เมื่อนำมาชง จะได้น้ำชาเขียวที่มีสีทองสุกสว่าง รสชาติแน่น
มัทชา เป็นชาเขียวชั้นดีที่สุดของญี่ปุ่น ผลิตจากการนำยอดอ่อนของใบชา มาทำเป็นมัทชา และชาชนิดนี้ ยังใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่นอีกด้วย
ข้าวตอก เป็นเมล็ดข้าวญี่ปุ่นที่นำมาคั่ว ใส่เพื่อเสริมรสชาติและความ
าวญี่ปุ่นถูกปลูกฝังว่า ต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้งจากภูเขาและท้องทะเลอาหารจากภูเขาคือ ผักตามฤดูกาล พืชธัญญาหาร ตลอดจนข้าวเมล็ดต่างๆส่วนอาหารจากท้องทะเลก็คือปลาทะเลต่างๆ สาหร่ายทะเล กุ้ง หอย ปู เป็นสำคัญ อาหารทะเลถือว่าเป็นอาหารแห่งชีวิตของชาวญี่ปุ่น แต่มีความสำคัญน้อยกว่าอาหารที่ผลิตจากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ มิโสะ เต้าเจี้ยว และซอสต่างๆ ที่หมักจากถั่วเหลือง
     วิธีการทำอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ใช้วิธีนึ่ง ต้ม ทำให้อาหารคงรสชาติตามธรรมชาติมากที่สุด ข้าวจะเป็นอาหารหลักกับข้าวจึงปรุงมาจากอาหารทะเล ผักสดชนิดต่างๆเครื่องปรุงรส ซอสหรือซีอิ๊ว และอุปกรณ์ที่สำคัญ คือ ตะเกียบ อาหารญี่ปุ่นเมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสะอาดปาก และสบายท้อง เป็นเพราะใช้ของสดใหม่จากภูเขาและท้องทะเล แหล่งที่มาของอาหารแมคโครไบโอติกส์ซึ่งบ้านเรารู้จักในชื่อของ อาหารชีวจิต

อาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ มีดังนี้
ซูชิ( 寿司 sushi) 
     ซูชิ หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น 
ประเภทของซูชิ
1.)นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) เป็นซูชิพบได้บ่อยในภัตตาคาร ซูชิจะมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
2.)มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน (1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก (2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก (3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
3.)ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
4.)โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
5.)อินะริซูชิ ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง
ราเม็ง (らーめん ramen)
     ราเม็ง เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับ เนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบะโกะ ต้นหอม และบางครั้งจะมีข้าวโพด ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของทงโคสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง (ราเม็งเต้าเจี้ยว)


ว่าแล้วก็มาดูกันซิว่า อาหารเช้า มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง
1.อาหารเช้าช่วยควบคุมโรคอ้วน และน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
2.ผลการวิจัยจากสมาคมแพทย์โรคหัวใจในอเมริกาเมื่อปี 2003 พบว่า การรับประทานอาหารเช้าอย่างสม่ำเสมอ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจได้ด้วย
3.มีการวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารเช้ามีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน การทำงาน
4.ช่วยลดโอกาสเกิดโรคนิ่ว
5. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้ 
6.สำหรับเด็ก ๆ การอดอาหารเช้าเป็นประจำ อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
แล้วเราควรทานอะไรเป็นอาหารเช้าอะไรดีล่ะ

           หากไม่มีเวลาคิด หรือคิดไม่ออกว่า ควรจะทานอาหารเช้าอะไรดีจึงจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เราก็มีเมนูง่าย ๆ มาแนะนำกัน

1.ซีเรียล หรือ คอร์นเฟลก

           ข้าวโพดแผ่นบางกรอบราดด้วยนม ถือเป็นอาหารเช้าที่เข้าท่าทีเดียว สำหรับคนที่อาจไม่มีเวลาทานข้าวเช้า นอกจากจะได้ความอร่อยแล้ว ยังให้พลังงาน แถมคอร์นเฟลกยังมีไขมันต่ำอีกด้วย ถ้าจะให้ดีลองผสมผลไม้สดลงไปในคอร์นเฟลกด้วย ก็จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนค่ะ

2.ปลา

           ปลา เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพของสมองโดยตรง แถมยังเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน รับรองว่าไม่ทำให้อ้วนแน่นอนค่ะ

3.ไข่

           อาหารเช้ายอดฮิตบนโต๊ะอาหารของหลาย ๆ บ้าน ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ล้วนเป็นอาหารจานโปรดของใครหลาย ๆ คน และเป็นอาหารที่มีสารอาหารหลากหลาย ทั้งโปรตีน วิตามินบี 12 และสังกะสี แถมยังช่วยเสริมสร้างความจำ และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอของสมองอีกด้วย จึงดีต่อสุขภาพแน่ ๆ ค่ะ แต่ว่าก็มีข้อควรระวังนิดหนึ่ง คือ ไม่ควรทาน "ไข่แดง" ให้มากเกินไป เพราะจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ง่าย ๆ 

4.โยเกิร์ต

           อีกหนึ่งอาหารเช้ายอดฮิตที่หาซื้อ หาทานได้ง่ายทีเดียว แถมยังเป็นอาหารที่มีโปรตีนจำพวกกรดอะมิโนสูง มีผลต่อระบบขับถ่าย และไม่ทำให้อ้วนด้วยล่ะ

5.ผักผลไม้

           ประกอบไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และเส้นใยในปริมาณมาก ฉะนั้นแล้วเราควรทานผักผลไม้ทุกวัน โดยเริ่มตั้งแต่เช้าวันใหม่เลย และไม่ควรเลือกทานผลไม้ที่มีรสหวานจัดจนเกินไป เพราะหากระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินไป จะทำให้สมองมึนซึม คิดอะไรไม่ค่อยออก แถมยังต้องนั่งง่วงอีกด้วย

6.ธัญพืชไม่ขัดสี

           ไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ขนมปังโฮลวีท เหล่านี้เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง และเป็นคาร์โบ"ฮเดรตเชิงซ้อนที่ให้พลังงานได้นาน

7.ข้าว

           ปิดท้ายที่อาหารหลักของคนไทยอย่าง "ข้าว" นั่นเอง รู้ไหมว่า ข้าวมีคุณสมบัติช่วยให้ระบบการย่อยของร่างกายทำงานเป็นปกติ แถมยังเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ช่วยชาร์จพลังงานยามเช้าให้เราได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะอยากได้รับประโยชน์จากข้าวแบบเต็ม ๆ แล้วล่ะก็ ลองเลือกทาน "ข้าวซ้อมมือ" หรือ "ข้าวกล้อง" ดูสิคะ จะได้รับวิตามินเพิ่มเติม แถมอิ่มไปทั้งมื้อด้วย